บทที่ ๑๑ มารยาทชาวพุทธ ศาสนพิธีและวันสำคัญทางศาสนา
๑. การปฏิสันถาร
- การปฏิสันถารคือการต้อนรับแขกผู้มาเยือน ซึ่งทำได้หลายวิธีคือ ด้วยวาจาไพเราะ ให้ที่พักอาศัย และแสดงน้ำใจต่อกัน เพื่อให้ผู้มาเยือนพอใจ
๒. การแต่งกาย
- ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อยเหมาะสมกับวัย ไม่ทำให้เสื่อมเสียเกียรติยศชื่อเสียงของประเทศชาติบ้านเมือง เช่นนุ่งกางเกงในออกนอกบ้านเป็นต้น
๓. การรับประทานอาหาร
- ควรมีระเบียบเรียบร้อย ประหยัด มีอนามัย อย่าทำให้เกิดความน่ารังเกียจแก่ผู้ร่วมรับประทานอาหารด้วย เช่นทำมูมมาม ทำหกเลอะเทอะ ทำเสียงดังซูดซ๊าด หรือกินอย่างตายอดตายอยากมาก่อน
๔. การไหว้(วันทา)
- ๑. ไหว้พระรัตนตรัย คือยกมือประนมให้ปลายนิ้วจรดหน้าผาก ปลายหัวแม่มือจรดหว่างคิ้ว ถ้าเป็นหญิงยืนไหว้ให้สืบเท้าข้างใดข้างหนึ่งไปข้างหน้าเล็กน้อย พร้อมทั้งน้อมตัวไหว้(ถอนสายบัว)
- ๒. ไหว้บิดามารดา ครูอาจารย์ คือให้ยกมือประนม ปลายนิ้วชี้จรดระหว่างคิ้ว ปลายหัวแม่มือจรดปลายจมูก ถ้าเป็นหญิงยืนไหว้ให้สืบเท้าข้างใดข้างหนึ่งไปข้างหน้าเล็กน้อย พร้อมทั้งน้อมตัวไหว้
- ๓. ไหว้ผู้ที่อาวุโส หรือผู้ที่เคารพทั่วๆไป คือยกมือประนมให้ปลายนิ้วชี้จรดปลายจมูก ปลายหัวแม่มือจรดปลายคาง
- ๔. ไหว้คนเสมอกัน คือยกมือประนมเสมออก จะค้อมศีรษะลงเล็กน้อยหรือไม่ก็ได้ ซึ่งการรับไหว้จากคนอื่นก็ทำอย่างนี้
- การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ คือชายนั่งคุกเข่า ส่วนหญิงนั่งทอดปลายเท้าแล้วนั่งทับเท้า การกราบชายให้เข่า ๒ มือ ๒ หน้าผาก ๑ จรดพื้น และแบมือให้ห่างกันเล็กน้อยพอหน้าผากจะลงได้ ให้ข้อศอกต่อเข่า ส่วนหญิงหมอบให้ขาชิดกัน ข้อศอกคร่อมเข่า ไม่ต้องต่อเข่าแบบชาย
๖. มารยาทในห้องเรียนหรือห้องบรรยาย
- ๑. แต่งตัวเรียบร้อย
- ๒. ไม่คุย ไม่เล่น ไม่ดื่ม
- ๓. ตั้งใจฟัง ไม่หลับ
- ๔. ควรยกมือก่อนถาม
- ๕. รักษากติการะเบียบ
๗. มารยาทในที่ประชุม
- ๑. แต่งกายสุภาพ
- ๒. อย่าพูดสอด
- ๓. รักษามารยาท
- ๔. ทำใจให้กว้าง
- ๕. ไม่พูดเรื่องส่วนตัว
- ๖. ขออนุญาตก่อนพูด
- ๗. ขออนุญาตก่อนถ้าจะเลิกก่อน
๘. มารยาทในการไปเยี่ยมผู้อื่น
- ๑. ควรหาโอกาสไปเยี่ยม
- ๒. ก่อนเข้าบ้านหรือห้องควรให้สัญญาณ
- ๓. ควรทำความเคารพเจ้าของบ้านก่อน
- ๔. ไม่ควรอยู่นานเกิน
- ๕. ไม่ควรนำคนที่ไม่รู้จักไปด้วย
- ๖. เมื่อจะกลับให้บอกลา
๙. มารยาทในการต้อนรับ
- ๑. เมื่อแขกมาเยือน เจ้าของบ้านควรต้อนรับด้วยอาการยิ้มแย้ม
- ๒. เชิญแขกนั่ง หาน้ำต้อนรับ
- ๓. ไม่ควรถามแขกว่ามีธุระอะไร
- ๔. อย่าทำอะไรที่ดูเหมือนไล่แขกทางอ้อม
- ๕. เมื่อแขกลากลับควรเดินไปส่ง
๑๐. มารยาทในการไปงานมงคล
- ๑. แต่งกายเหมาะสมตามงาน
- ๒. ควรไปถึงก่อนเวลา
- ๓. ไม่ควรสนทนาเรื่องไม่เหมาะสม
- ๔. ควรให้เกียรติเจ้าภาพ
- ๕. เมื่อจะกลับควรลาเจ้าภาพก่อน
๑๑. มารยาทในการไปงานศพ
- ๑. แต่งตัวตามประเพณี คือชุดดำ หรือชุดพระราชทาน หรือเครื่องแบบข้าราชการ นักเรียน
- ๒. ไม่ควรพูดคุยสนุกสนาน
- ๓. ไม่ควรรดน้ำศพผู้อาวุโสน้อยกว่า
- ๔. เมื่อแขกผู้มีเกียรติจุดไฟ เราควรยืนพร้อมกันด้วยความสงบ
๑๒. มารยาทในการสนทนา
- ๑. ใช้วาจาและกิริยาที่สุภาพ
- ๒. ให้โอกาสคนอื่นพูดบ้าง
- ๓. อย่าเล่าเรื่องตนเองมากเกินไป
- ๔. อย่าอวดตน อย่านินทาผู้อื่น
- ๕. อย่าบ่นถึงเคราะห์กรรมของตนเองมากเกินควร
- ๖. อย่าเอาความลับคนอื่นมาเปิดเผย
- ๗. อย่าขัดคอคนอื่น
- ๘. อย่าหยอกล้อกันจนเกินควร
๑๓. มารยาททั่วไปในที่สาธารณะ
- ๑. อย่าเดินเบียดคนอื่น
- ๒. ควรกล่าวขอโทษถ้าบังเอิญไปล่วงเกินผู้อื่น
- ๓. ควรกล่าวขอบคุณเมื่อผู้อื่นทำอะไรให้
- ๔. อย่าสูบบุหรี่และส่งเสียงดัง
- ๕. เคารพกฎของสถานที่ที่กำหนดไว้
- ๖. ช่วยกันรักษาความสะอาด
- ๗. ไม่แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสม
ศาสนพิธี
พิธีกรรมของพุทธศาสนาที่พบเห็นได้บ่อยก็ได้แก่
พิธีกรรมของพุทธศาสนาที่พบเห็นได้บ่อยก็ได้แก่
- ๑. พิธีอุปสมบท ซึ่งเป็นการ บวชเป็นพระภิกษุและถือศีล ๒๒๗ ข้อ
- ๒. พิธีพรรพชา ซึ่งเป็นการบวชเป็นสามเณรและถือศีล ๑๐ ข้อ
ส่วนประเพณีของชาวพุทธที่พบเห็นได้บ่อยก็ได้แก่
- ๑. การทอดกฐิน คือการเอาผ้าไตรจีวร(ผ้านุ่งผ้าห่มเป็นชุด)ไปถวายพระสงฆ์ช่วงหลังจากออกพรรษาแล้วประมาณ ๑ เดือน
- ๒. ทอดผ้าป่า คือการเอาผ้าเป็นผืนไปถวายพระสงฆ์ จะถวายเมื่อไรก็ได้
- ๓. การทำบุญในวันสำคัญทางพุทธศาสนาต่างๆ เป็นต้น.
วันสำคัญทางศาสนา
วันสำคัญทางพุทธศาสนาก็ได้แก่
วันสำคัญทางพุทธศาสนาก็ได้แก่
- ๑. วันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ,ตรัสรู้,ปรินิพพาน
- ๒. วันอาสาฬหบูชา ซึ่งเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมครั้งแรก
- ๓. วันมาฆบูชา ซึ่งเป็นวันที่พระอริยสงฆ์จำนวนมากมาประชุมพร้อมกัน
- ๔. วันเข้าพรรษา ซึ่งเป็นวันที่พระสงฆ์จะอยู่ประจำที่เป็นเวลา ๓ เดือน
- ๕. วันออกพรรษา ซึ่งเป็นวันที่พระสงฆ์ครบกำหนดจำพรรษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น