บทที่ ๑๔ ธรรมประยุกติ
๑. อธิปไตย ๓
ธรรมชาติของมนุษย์จะมีความเห็นและความเชื่อจากลักษณะ ๓ ประการนี้คือ
ธรรมชาติของมนุษย์จะมีความเห็นและความเชื่อจากลักษณะ ๓ ประการนี้คือ
- ๑. อัตตาธิปไตย คือมีตนเป็นใหญ่
- ๒. โลกาธิปไตย คือมีโลกเป็นใหญ่
- ๓. ธรรมาธิปไตย คือมีธรรมะเป็นใหญ่
- อัตตาธิปไตย ก็คือเอาความเห็นของตนเป็นใหญ่ เชื่อมั่นตนเอง ส่วนโลกาธิปไตยก็คือเชื่อตามชาวโลก หรือตามคนอื่น ซึ่งทั้งสองนี้ก็มีทางที่จะเป็นความเห็นหรือความเชื่อที่ผิดได้ จะต้องเป็นธรรมาธิปไตย คือเชื่อตามหลักความจริงที่ปรากฏ จึงจะเป็นความเห็นที่ถูกต้อง
๒. กำลัง ๘
พระพุทธองค์ทรงตรัสถึงเรื่องสิ่งที่มีกำลังในการเอาชนะไว้ดังนี้
พระพุทธองค์ทรงตรัสถึงเรื่องสิ่งที่มีกำลังในการเอาชนะไว้ดังนี้
- ๑. เด็กมีการร้องไห้เป็นกำลัง
- ๒. สตรีมีความโกรธเป็นกำลัง
- ๓. โจรมีอาวุธเป็นกำลัง
- ๔. พระราชามีอิสริยะ(ความเป็นใหญ่)เป็นกำลัง
- ๕. คนพาลมีการเพ่งโทษผู้อื่นเป็นกำลัง
- ๖. บัณฑิตมีการเพ่งโทษตนเองเป็นกำลัง
- ๗. ผู้สดับมากมีการพิจารณาเป็นกำลัง
- ๘. สมณะพราหมณ์มีขันติเป็นกำลัง
๓. วาจาสุภาษิต
หลักในการพูดนั้นพระพุทธองค์ทรงวางหลักไว้ดังนี้
หลักในการพูดนั้นพระพุทธองค์ทรงวางหลักไว้ดังนี้
- ๑. คำพูดใดไม่จริง ไม่แท้และไม่เป็นประโยชน์ ไม่ควรพูด
- ๒. คำพูดใด ไม่จริง ไม่แท้ แต่เป็นที่รักที่พอใจของผู้ฟัง ก็ไม่ควรพูด
- ๓. คำพูดใด จริงแท้ แต่ไม่เป็นประโยชน์ ก็ไม่ควรพูด
- ๔. คำพูดใดจริงแท้และเป็นประโยชน์ แต่ไม่เป็นที่รักของผู้ฟัง จะต้องรู้เวลาที่จะพูด
- ๕. คำพูดใดจริงแท้และเป็นประโยชน์ และเป็นที่รักที่พอใจของผู้ฟังจึงสมควรพูด
๔. การปฏิบัติเกี่ยวกับเวลา
บุคคลทั่วไปนั้นมักจะเฝ้าอาลัยอาวรณ์กับอดีต และวิตกกังวลกับอนาคต แต่พระพุทธองค์ทรงสอนว่า
บุคคลทั่วไปนั้นมักจะเฝ้าอาลัยอาวรณ์กับอดีต และวิตกกังวลกับอนาคต แต่พระพุทธองค์ทรงสอนว่า
- ๑. อย่าอาลัยอาวรณ์กับอดีต เพราะมันไม่สามารถย้อนกลับมาได้
- ๒. และอย่าวิตกกังวลกับอนาคต เพราะมันยังมาไม่ถึง
- ๓. จงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด แล้วอนาคตจะจัดตัวของมันเอง
๕. สิ่งที่ควรพิจารณาเนืองๆ
พระพุทธองค์ทรงสอนให้เราหมั่นพิจารณาตนเองอยู่เสมอๆว่า
พระพุทธองค์ทรงสอนให้เราหมั่นพิจารณาตนเองอยู่เสมอๆว่า
- ๑. วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่
- ๒. เมื่อเราทำสิ่งใดไว้เราย่อมจะได้รับผลจากการกระทำนั้น
- ๓. เรามีคุณความดีอะไรที่จะเอาไว้อวดคนอื่นบ้างหรือไม่
- ๔. เรามีอะไรที่จะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นบ้างหรือไม่
๖. ผู้พูดปดทั้งๆที่รู้
- พระพุทธองค์ทรงสอนว่า “ผู้ที่ยังพูดโกหกอยู่ทั่งๆที่รู้ การที่จะไม่ทำความชั่วอื่นอีกเป็นไม่มี” คือคนที่ชอบพูดโกหกนั้น เขาย่อมพูดเพื่อเอาตัวรอด หรือเพื่อประโยชน์แก่ตนเองโดยไม่สนใจผู้อื่น ดังนั้นการพูดโกหก จึงเป็นเครื่องชี้ว่าคนพูดนั้นมีการทำสิ่งที่ไม่ดีงาม(ชั่ว)เอาไว้ หรือจะมีการทำสิ่งที่ไม่ดีงาม(ชั่ว)อีกอย่างแน่นอนในอนาคต ดังนั้นเราจึงควรระมัดระวังคนเหล่านี้ให้ดี.
๗. การศึกษาให้แจ่มแจ้ง
- ในการศึกษาสิ่งใดนั้น เราจะต้องศึกษาให้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ซึ่งหลักในการศึกษานั้นก็คือ เราจะต้อง ศึกษาให้ “ลึกและรอบด้าน” คือศึกษาให้ลึกที่สุด และรอบด้าน หรือศึกษาให้หมดและรวมทั้งสิ่งที่เกี่ยวข้องด้วย เหมือนกับการศึกษาสระน้ำ ที่ต้องรู้ถึงความลึกและความกว้างของสระน้ำให้หมด จึงจะรู้จักสระน้ำนั้นอย่างแจ่มแจ้งแท้จริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น